นิยาย4 เหตุผลโดนๆที่ควรจะถือนิยายรักขึ้นมาอ่านทุกๆวันเชื่อมั่นว่านักอ่านหลายคนอาจมีนิยายแนวที่ถูกใจเป็นพิเศษอยู่ในใจแล้วใช่มั้ยล่ะซึ่งนิยายที่ว่า ก็คือแนวที่พอเพียงเข้าร้านหนังสือแล้วจะต้องเดินตรงล้นไปเลือกถือเล่มใหม่ๆขึ้นมาเปิดอ่านเพื่อใคร่ครวญว่าจะซื้อหรือเปล่า หากถูกใจ ก็พร้อมที่จะนำกลับไปอยู่ที่บ้านไปอ่านต่อ โดยเหตุนี้ช่องทางที่จะมองหานิยายแนวอื่น ก็บางครั้งก็อาจจะน้อย และสำหรับผู้ใดที่ยังไม่เคยทดลองอ่าน นิยายรัก ก็อยากที่จะให้ทดลองเดินไปจับขึ้นมาเปิดดูซิ อย่าพึ่งจะตัดสินว่ามันจำเป็นจะต้องเชิญชวนฝันลูกเดียว เพราะตอนนี้นิยายรักก็ใส่พล็อตแปลกใหม่เข้ามาได้อย่างสนุกสนาน เชิญชวนติดตาม และพอดีมากยิ่งกว่าที่คิด ว่าแล้วพวกเราก็ไปส่อง 4 เหตุผลโดนๆที่ควรจะหยิบนิยายรักขึ้นมาอ่านทุกเมื่อเชื่อวันไปพร้อมเพียงกันเลยดีมากยิ่งกว่า

1.ช่วยปรับให้โลกแจ่มใสขึ้นนิยายรักช่วยเปิดโลกอีกมุมหนึ่งได้อย่างแท้จริง ซึ่งโลกที่ว่าคือโลกที่ความสวยสดงดงาม แม้กระนั้นความงดงามพวกนั้นไม่ได้เริ่มมาแต่แรกเริ่ม พวกเราต้องเบาๆตามติดไปเรื่อยว่าเรื่องราวในนิยายจะลงเอยอย่างงดงามได้เช่นไร แน่ๆว่าถ้าเกิดพวกเราเปิดใจให้กับนิยายแนวนี้ รับรองว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือพวกเราต้องมองโลกในด้านบวกมากเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
2.เป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักขึ้นว่านิยายรัก ก็จำเป็นต้องมาพร้อมเรื่องราวความรักหลายต้นแบบ แล้วก็ดูเหมือนจะทุกเรื่องราวล้วนพรีเซ็นท์ประเด็นความรักที่แตกต่างกันไป ราวกับพวกเราได้อ่านประสบการณ์ความรักของคู่ตัวอย่างอยู่ ซึ่งถ้าเกิดคู่นั้นมีปัญหาอะไรกัน เราก็จะได้รู้วิธีแก้ปัญหาไปในตัวด้วย สมัยปัจจุบันนี้นิยายไม่ค่อยแต่งเกินจริงแล้วด้วย ก็น่าจะช่วยให้พวกเราเอามาประยุกต์ในชีวิตจริงได้นะ
3.เหมาะกับผู้เขียนมือใหม่สำหรับผู้ใดที่อยากเป็นนักเขียนนวนิยายรัก ก็ควรจะหมั่นอ่านนิยายแนวนี้ให้จำนวนไม่ใช่น้อยเข้าไว้นะ เพราะว่ามันจะช่วยให้พวกเรารู้เรื่องทราบวิธีการเล่ามากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีผลให้มองเห็นพล็อตที่มากมาย ถือได้ว่าเป็นการคุ้มครองพล็อตซ้ำไปในตัว ยิ่งกว่านั้นยังช่วยให้พวกเราใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องด้วย เนื่องจากว่านิยายที่ออกเป็นรูปเล่มแล้วจะผ่านการยืนยันอักษรมาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
4.สร้างนิสัยรักการอ่านขึ้นว่าหนังสือ เพียงแค่จับขึ้นมาอ่านก็ถือว่าเป็นประโยชน์แล้ว แถมยังได้รับความเพลิดเพลินด้วย จริงอยู่ว่าการอ่านนิยายบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องใช้เวลาสนใจอยู่นาน แต่เราก็สามารถอ่านเก็บไปเรื่อยได้ ไม่ต้องไล่อ่านให้จบภายในวันเดียว รับรองว่าเพียงพอเราเริ่มต้นอ่านนิยายแต่ละวันแล้ว จะทำให้สร้างนิสัยรักการอ่านไปในตัว สามารถนำไปปรับใช้กับการอ่านหนังสือเรียนก็ได้เช่นเดียวกันนะเอ้อแน่นอนว่าสำหรับคนที่อ่านบทความนี้จบแล้ว ส่วนมากน่าจะเป็นคอนิยายรักกันอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ฉะนั้นอย่าลืมส่งเหตุผลโดนๆที่ควรอ่านนิยายรักไปให้ผู้ที่อ่านนิยายแนวอื่นๆกันดูด้วยนะเออ เผื่อเราจะมีสหายๆมาเม้าท์มอยหรือชี้แนะนิยายรักเรื่องใหม่ๆให้ลองอ่านบ้างยังไงล่ะ
นอกเหนือจากสเตตัสบน Facebook เนื้อความบน Twitter หรือองค์ประกอบบนกล่องผลิตภัณฑ์ต่างๆแล้ว คราวสุดท้ายที่คุณอ่านหนังสือแบบมุ่งมั่นคือเมื่อไรพวกเราต่างก็รู้ว่าการอ่านหนังสือนั้นมีประโยชน์ แต่น้อยคนนักที่จะตั้งมั่นอ่าน และก็ได้รับคุณประโยชน์จากการอ่านอย่างเต็มเปี่ยม ก็เลยได้สะสมคุณประโยชน์ต่างๆที่ได้จากการอ่านหนังสือ เพื่อย้ำให้ทุกคนเห็นว่าการอ่านหนังสือนั้นสำคัญเพียงใดการอ่านหนังสือจะเป็นการกระตุ้นรูปแบบการทำงานของสมอง ช่วยปรับปรุงหัวข้อการจำ รวมถึงชะลอแล้วก็คุ้มครองป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ช่วยให้รู้สึกบรรเทา ลดความเคร่งเครียดต่างๆที่กำลังเผชิญ รวมทั้งช่วยให้มีสมาธิใส่ใจกับบางสิ่งบางอย่างก้าวหน้าขึ้นมีทักษะสำหรับเพื่อการติดต่อสื่อสารที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากมายสำหรับเพื่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆไปหนังสือบางประเภทช่วยให้พวกเราสามารถฝึกซ้อมทักษะสำหรับการคิดเชิงวิเคราะห์ได้
1. ช่วยกระตุ้นหลักการทำงานของสมองสมองก็อยากการออกกำลังเพื่อแข็งแรงแล้วก็มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เป็นประจำเหมือนกับร่างกาย การอ่านหนังสือเป็นเหมือนกับการออกกำลังสมอง ทำให้สมองของพวกเราได้คิดและได้ดำเนินงานตลอดระยะเวลา ซึ่งจากการเล่าเรียนพบว่า การกระตุ้นแนวทางการทำงานของสมอง (Mental Stimulation) อย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอรวมทั้งคุ้มครองป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์แล้วก็ช่วยพัฒนาประเด็นการจำได้ เป็นต้นว่า เมื่อคุณอ่านหนังสือ คุณก็จะต้องจำผู้แสดง ที่มาที่ไปของเรื่องราว และก็รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆซึ่งเมื่อใดก็ตามมีความทรงจำใหม่ๆสมองก็จะเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ และก็เรียกกลับมาเมื่อเราอยากได้ใช้งาน ยิ่งอ่านหนังสือมาก สมองที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับการจดจำก็จะได้ทำงานมาก
2. ความเครียดลดลงรวมทั้งจิตใจสงบมากเพิ่มขึ้นเมื่อใดก็ตามที่คุณจมอยู่กับการอ่านหนังสือดีๆสักเล่ม ความเครียดจากงาน หรือปัญหาส่วนตัวต่างๆที่คุณเจอมาจะถูกลืมไปโดยทันที การอ่านนิยายบันเทิงใจๆจะพาให้ท่านได้เข้าไปอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง ช่วงเวลาที่การได้อ่านบทความดีๆสักบทความ ก็จะก่อให้คุณจดจ่ออยู่กับเวลาในขณะนั้นและก็ลืมความกลุ้มใจต่างๆไป นอกเหนือจากที่จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายแล้ว การได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนา สามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกสงบอีกด้วย
3. ได้รับความรู้ทุกสิ่งที่คุณอ่านจะเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับคุณทั้งสิ้น ซึ่งคุณไม่มีวันรู้ได้เลยว่าคุณอาจจะต้องนำความรู้เหล่านั้นออกมาใช้เมื่อใด ยิ่งคุณมีความรู้และมีความเข้าใจมากแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้ท่านเป็นต่อมากยิ่งขึ้น เมื่อจำเป็นต้องเผชิญกับปัญหารวมทั้งความท้าทายต่างๆสิ่งของหรือทรัพย์สิน อาจถูกขโมยไปได้ แต่ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเอาไปจากคุณได้
4. มีคลังเก็บของคำศัพท์ที่มากขึ้น มีความชำนาญการสื่อสารที่ดียิ่งขึ้นยิ่งคุณอ่านหนังสือมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีคลังเก็บของคำศัพท์เพิ่มมากมายเพียงแค่นั้น และก็ศัพท์เหล่านั้นก็จะถูกประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานเขียนดีๆจะมีผลต่อการเขียนของผู้ที่ได้อ่าน การได้ดูดซึมแนวทางและสไตล์การเขียนของนักประพันธ์คนอื่นๆจะช่วยทำให้คุณพัฒนาทักษะการเขียนของคุณเองในการดำเนินการ ผู้ที่มีความสามาถสำหรับเพื่อการอ่านรวมทั้งกล่าว แล้วก็มีความรู้ที่มากมาย มีความเป็นไปได้ที่จะเจริญเติบโตในหน้าที่การงานมากยิ่งกว่าคนที่ไม่ค่อยรู้จักศัพท์และมีความรอบรู้ในประเด็นต่างๆน้อย ยิ่งไปกว่านั้นการอ่านหนังสือภาษาต่างชาติยังช่วยสำหรับการศึกษาภาษาใหม่ๆอีกด้วย เนื่องจากว่าคุณจะได้คำศัพท์ใหม่ๆซึ่งจะก่อให้พูดรวมทั้งเขียนภาษานั้นได้คล่องขึ้น
5. มีความสามารถการคิดเชิงวิเคราะห์คุณเคยอ่านหนังสือนิยายแนวสืบสวนสอบสวน แล้วคิดแก้ไขปัญหาต่างๆได้ด้วยตัวเองก่อนที่จะอ่านหนังสือจบไหม การเก็บเนื้อหาต่างๆในเรื่องแล้วพินิจพิจารณาเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น หรือหาตัวฆาตกรได้ เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ความสามารถด้านการคิดเชิงวิเคราะห์ การวิจารณ์นิยายในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นตัวเค้าโครงเรื่อง ค้างแร็คเตอร์ตัวละคร ความลื่นไหลของเนื้อเรื่อง รวมถึงการเสนอความคิดเห็นกับคนอื่นเกี่ยวกับหนังสือเล่นนั้นๆก็เป็นการช่วยปรับปรุงความถนัดการคิดเชิงวิเคราะห์ได้เช่นเดียวกัน
6. มีสมาธิฝักใฝ่กับบางอย่างได้มากขึ้นในโลกที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราแบบเวลานี้ มีเรื่องต่างๆมากที่ดึงดูดความพึงพอใจของเราพร้อมกันในเวลาเดียว หลายๆคนสามารถปฏิบัติงาน เช็กอีเมล แชทกับสหาย อ่านสเตตัส ดูโทรศัพท์เคลื่อนที่ และก็คุยกับสหายร่วมงานได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5 นาที ซึ่งวิธีการทำความประพฤติแบบงี้ จะมีผลให้ความสามารถสำหรับในการทำงานของเราต่ำลง รวมทั้งอาจเป็นต้นเหตุให้กำเนิดความเคร่งเครียดได้ แต่ว่าเมื่อคุณได้อ่านหนังสือ คุณก็จะมีความสนใจและก็จุดโฟกัสไปที่เรื่องราวในหนังสือแค่นั้น ก่อนเริ่มดำเนินงาน ลองหาเวลาอ่านหนังสือ สัก 15 – 20 นาที แล้วคุณจะพบว่ามันสามารถช่วยให้คุณมีสมาธิเยอะขึ้นเมื่อถึงเวลาปฏิบัติงาน
7. ให้ความบันเทิงการอ่านหนังสือเป็นวิธีสร้างความสนุกสนานให้กับตัวเองแนวทางหนึ่ง ผู้คนจำนวนมากแฮปปี้กับการได้ซื้อหนังสือ แต่ว่าบางคนนั้นการไปยืมหนังสือมาจากหอสมุดเป็นโอกาสที่ดียิ่งกว่า เพราะว่าห้องสมุดมีหนังสือจำนวนมากหลายชนิดให้คุณได้เลือกอ่านโดยไม่ต้องเสียตังค์มากไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับเพื่อการซื้อ แล้วก็ห้องหนังสือชอบนำหนังสือใหม่ๆเข้ามาเสมอ อย่างไรก็ดี ถ้าหากคุณไม่สะดวกสำหรับการที่จะไปหอสมุด คุณก็สามารถอ่านหนังสือผ่านทางเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆได้ ด้วยเหตุว่าตอนนี้หนังสือหลายเล่มมีการทำออกมาในรูปแบบของ e-book หรือ PDF ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
จุดเด่นของการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษนั้น แน่นอนว่านอกจากสมาธิที่ได้จากการอ่านหนังสือ นักอ่านเองก็จะได้เรื่องรู้ภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งภาษาอังกฤษในขณะนี้เป็นภาษาสากลของโลก ที่มีสาวใช้เยอะแยะ เป็นสื่อกลางที่ใช้เพื่อสำหรับในการติดต่อ อีกทั้งในด้านของการศึกษาเล่าเรียน ด้านของการบ้านการเมือง รวมถึงด้านของธุรกิจ ด้วยเหตุนั้นถ้าเกิดคนไหนกันที่มีความรู้ความเข้าใจในด้านของภาษาอังกฤษ ก็จะมีผลให้คนคนนั้นเป็นต่อผู้อื่นที่ไม่มีความสามารถด้านนี้ไม่ว่าจะเป็นจากการเรียน หรือด้านการงาน เพราะว่ายิ่งมีความรู้ความสามารถมาก จังหวะการทำงานหรือการศึกษาก็จะมากมายไปด้วย ก็เลยเปลี่ยนเป็นที่อยากได้ของหลายๆบริษัท หลายๆหน่วยงาน ลองมองกันว่าการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมีจุดเด่นอย่างไรบ้างช่วยวิวัฒนาการคิดเป็นภาษาอังกฤษ การคิดเป็นภาษาอังกฤษนำมาซึ่งความคล่องตัวสำหรับเพื่อการใช้ภาษาอังกฤษตามธรรมชาติ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทำให้คิดเป็นภาษาอังกฤษได้ง่ายขึ้น โดยการอ่านแบบเร็วๆผ่านๆตา ทำให้ไม่คำนึงถึงหัวข้อการแปล แล้วก็เกิดการจำศัพท์ ต้นแบบประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันและก็เมื่ออ่านบ่อยๆกระทั่งเริ่มเคยชินจะเกิดความคล่องตัวในการอ่าน เพียงใช้สายตาสแกนผ่านข้อความก็สามารถคิดเป็นภาษาอังกฤษได้ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่ช่วยทำให้ได้ศึกษาภาษา แต่ยังช่วยให้ทำความเข้าใจรายละเอียดของศาสตร์รวมทั้งสาขานั้นๆและวัฒนธรรมที่หลบซ่อนอยู่ในหนังสือ ไม่ว่าจะสนใจใจความสำคัญไหน เป็นต้นว่า การเมือง สังคม เศรษฐกิจ การเรียน กีฬา ของกิน หรือแฟชั่น ก็สามารถเลือกอ่านจากแหล่งต่างๆได้ ไม่เฉพาะแต่ในหนังสือ อาทิเช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร บล็อก โซเชียลมีเดีย เพื่อปรับปรุงความรู้ รวมทั้งถ้าพวกเรามีความถนัดสำหรับในการอ่านที่ดี จะทำให้พวกเราสามารถอ่านและเก็บข้อมูลต่างๆมาใช้ให้มีคุณประโยชน์ได้กระตุ้นหลักการทำงานของสมอง การที่คนคนหนึ่งมีความเข้าใจทางด้านภาษามากกว่า 1 ภาษาจะช่วยทำให้คนนั้นไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์กล้วยๆเพราะว่าสมองพวกเราควรต้องแยกภาษาออกเป็นหลายๆภาษา เท่ากับพวกเราได้บริหารสมองตลอดเวลา และก็กระตุ้นกระบวนการคิด เมื่อสมองปฏิบัติงานอยู่ตลอด เก็บข้อมูลและก็เรียบเรียงข้อมูลใหม่ เพื่อให้เราสามารถจำอะไรเจริญขึ้น เส้นหยักในสมองก็จะมากยิ่งขึ้น ทำให้เปลี่ยนเป็นผู้ที่ความจำดี มีความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการแยกแยะสิ่งต่างก้าวหน้าเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทำให้พวกเราได้พบศัพท์ หรือโครงสร้างประโยคใหม่ๆเพื่อได้นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วก็ถ้าหากเป็นการอ่านหนังสือมากมายหัวข้อแล้วจะก็จะได้โอกาสมองเห็นศัพท์มากมายและจำได้โดยไม่ต้องท่องปรับปรุงความชำนาญการเขียน การอ่านหนังสือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะทางด้านการเขียนให้เรา แล้วก็ยิ่งหากได้อ่านบ่อยๆก็จะได้ทั้งคำศัพท์ สำนวน แล้วก็ไอเดียเกี่ยวกับสไตล์การเขียนที่แตกต่าง แล้วก็เรียนรู้การใช้คำที่เหมาะสมอีกด้วยเปิดโลกกว้าง การเล่าเรียนภาษาต่างชาติ จะได้รับวัฒนธรรมของประเทศนั้นมาจากหนังสือ หรือจากสื่อที่ใช้เรียน ทำให้พวกเรามีความรู้ความเข้าใจรอบข้างมาก แถมยังได้เอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และก็การมีความรู้ในภาษาอังกฤษยังสามารถช่วยให้สามารถดำรงชีวิตในต่างแดนได้อย่างสบายบันเทิงใจแล้วก็เพลิดเพลินใจ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนสุดแล้วแต่ จะมีสาระความรู้มากน้อยเพียงใดก็ไม่มีความสำคัญ เนื่องจากว่าหนังสือสามารถให้อะไรกับผู้อ่านได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแถวคิด ความคิดดีๆและความชำนาญทางภาษาจากข้อดีข้างต้นก็พอจะรู้คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษกันแล้ว แต่ว่าติดอยู่กับความขี้เกียจ หรือบางคนก็มีกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจกว่าให้ทำ แต่แต่นี้ต่อไปถัดไป อยากที่จะให้ลองอ่านหนังสือภาษาอังกฤษกันให้เยอะขึ้น แล้วจะได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงในตนเองอย่างคาดไม่ถึง อะไรที่ไม่เคยได้ทราบก็ได้รู้ สถานที่ไม่เคยได้ไปก็จะได้เห็น มาเปิดโลกกว้างไปกับหนังสือดียิ่งกว่านะคะ